การใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยช่วยประหยัดค่าไฟและลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับไฟฟ้าได้ นี่คือเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจ
1. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน
- การเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้ เช่น ทีวีหรือเครื่องชาร์จมือถือ แม้ไม่ได้ใช้งาน แต่ยังคงกินไฟเล็กน้อย เรียกว่า “ไฟฟ้าแฝง” (Standby Power) ควรถอดปลั๊กหรือใช้ปลั๊กพ่วงที่มีสวิตช์เปิด-ปิดแทน
2. เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน
- ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีสัญลักษณ์เบอร์ 5 หรือที่ได้รับการรับรองด้านประหยัดพลังงาน จะช่วยลดค่าไฟระยะยาวได้อย่างมาก
3. ทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นประจำ
- การทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น แอร์หรือพัดลม ช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน
4. ใช้หลอดไฟ LED
- หลอดไฟ LED ประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดไส้หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ และมีอายุการใช้งานยาวนาน
5. ติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าในที่เหมาะสม
- เช่น ตู้เย็นควรตั้งห่างจากแหล่งความร้อน เช่น เตาไฟหรือแสงแดด เพื่อไม่ให้เครื่องทำงานหนักเกินไป
6. ปรับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า
- ใช้แสงธรรมชาติแทนไฟฟ้าในตอนกลางวัน
- ซักผ้าด้วยน้ำเย็นแทนน้ำร้อน
7. ตรวจสอบระบบไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ
- ตรวจสอบสายไฟ ปลั๊กไฟ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
8. ติดตั้งเบรกเกอร์ป้องกันไฟดูด
- ใช้เบรกเกอร์แบบ RCD (Residual Current Device) หรือ RCBO ที่สามารถป้องกันไฟดูดและไฟฟ้าลัดวงจร
9. ระวังการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าใกล้น้ำ
- ห้ามใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ไดร์เป่าผม ใกล้บริเวณที่เปียกชื้น เพื่อลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าดูด
10. รู้จักการใช้งานปลั๊กไฟและปลั๊กพ่วง
- ไม่เสียบปลั๊กไฟหลายอุปกรณ์เข้ากับปลั๊กพ่วงเดียวกันเกินกำลังไฟ เพราะอาจทำให้ปลั๊กไฟร้อนจนเกิดไฟไหม้ได้
11. ปรับอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสม
- ตั้งอุณหภูมิแอร์ที่ 25-26 องศาเซลเซียสในช่วงกลางวัน และเพิ่มอุณหภูมิเล็กน้อยในเวลากลางคืน จะช่วยลดการใช้พลังงานโดยไม่ลดความสบาย
12. ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าขณะเกิดพายุฟ้าผ่า
- ขณะเกิดพายุฝนหรือฟ้าผ่า ควรถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าสำคัญ เช่น คอมพิวเตอร์หรือทีวี เพื่อลดความเสี่ยงจากไฟกระชากที่อาจทำให้เครื่องเสียหายได้
13. เลือกใช้พัดลมแทนแอร์ในบางเวลา
- หากอากาศไม่ร้อนมาก ใช้พัดลมแทนการเปิดแอร์ ช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่า
14. ใช้หม้อหุงข้าวอย่างมีประสิทธิภาพ
- ปิดหม้อหุงข้าวทันทีเมื่อข้าวสุก และใช้ระบบอุ่นข้าวเมื่อจำเป็นเท่านั้น เพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า
15. หลีกเลี่ยงการเปิดตู้เย็นบ่อยครั้ง
- การเปิดปิดตู้เย็นบ่อย ๆ หรือเปิดทิ้งไว้นาน ๆ ทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนัก ควรวางสิ่งของในตู้เย็นอย่างเป็นระเบียบเพื่อหยิบของได้ง่าย
16. ติดตั้งฉนวนกันความร้อนในบ้าน
- การติดตั้งฉนวนกันความร้อนบนหลังคาหรือผนังช่วยลดความร้อนเข้าสู่บ้าน ทำให้แอร์ทำงานน้อยลงและช่วยประหยัดพลังงาน
17. ใช้โหมดประหยัดพลังงาน
- เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิด เช่น แอร์และเครื่องซักผ้า มีโหมดประหยัดพลังงาน (Eco Mode) ควรเปิดใช้งานเมื่อสามารถทำได้
18. ตรวจสอบบิลค่าไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ
- ตรวจสอบค่าการใช้ไฟฟ้าในแต่ละเดือนเพื่อประเมินพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของคุณ หากพบว่ามีค่าไฟเพิ่มขึ้นผิดปกติ อาจเกิดจากเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดที่มีปัญหา
19. ลงทุนในแผงโซลาร์เซลล์
- หากเป็นไปได้ การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์สำหรับผลิตไฟฟ้าใช้ในบ้าน เป็นทางเลือกที่ช่วยลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว
20. หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าพร้อมกัน
- โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน (Peak Time) เช่น ตอนเย็น การหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าหลายชนิดพร้อมกันช่วยลดการใช้พลังงานและค่าไฟฟ้าได้
การปรับพฤติกรรมเพียงเล็กน้อยก็ช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมีนัยสำคัญ และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย!