ระบบสายส่งไฟฟ้าและการกระจายไฟฟ้าเป็นสองส่วนสำคัญในการนำพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งผลิตไปยังผู้ใช้ปลายทาง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้:
1. ระบบสายส่งไฟฟ้า (Transmission System)
- วัตถุประสงค์: ส่งพลังงานไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า (เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ, โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน, หรือโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน) ไปยังสถานีไฟฟ้าย่อยขนาดใหญ่
- แรงดันไฟฟ้า: ใช้แรงดันสูงมาก (สูงกว่า 100 kV) เพื่อลดการสูญเสียพลังงานขณะส่งผ่านระยะทางไกล
- สายส่งไฟฟ้า: มักใช้สายส่งแบบสามเฟสซึ่งมีสามสายไฟหลักสำหรับพลังงานไฟฟ้าเฟสเดียว และสายกลางหรือสายดิน
- สถานีไฟฟ้าย่อย: เป็นจุดที่แรงดันไฟฟ้าจะถูกลดลงสำหรับการกระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ
2. ระบบกระจายไฟฟ้า (Distribution System)
- วัตถุประสงค์: กระจายไฟฟ้าจากสถานีไฟฟ้าย่อยไปยังผู้ใช้งาน เช่น บ้านเรือน อาคารพาณิชย์ หรือโรงงาน
- แรงดันไฟฟ้า: แรงดันไฟฟ้าถูกลดลงมาอยู่ในระดับที่ผู้ใช้สามารถใช้งานได้โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ในช่วง 110-240 โวลต์ สำหรับบ้านเรือน และอาจสูงกว่าในบางสถานการณ์ เช่นในโรงงาน
- สายไฟฟ้ากระจาย: อาจเป็นสายเหนือพื้นดินหรือใต้ดิน ขึ้นอยู่กับพื้นที่และสภาพแวดล้อม
- การแปลงไฟฟ้า: ใช้หม้อแปลงไฟฟ้าในการแปลงแรงดันไฟฟ้าลงมาก่อนที่จะจ่ายไปยังผู้ใช้
การจัดการและควบคุม
- ระบบควบคุม: ระบบทั้งสองมีการควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อให้สามารถจัดการพลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงระบบป้องกันการลัดวงจรและป้องกันการเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับ
- การปรับสมดุล: การควบคุมแรงดันและความถี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าการจ่ายไฟฟ้ามีเสถียรภาพ
การทำงานร่วมกันของทั้งระบบสายส่งไฟฟ้าและการกระจายไฟฟ้า ทำให้สามารถส่งพลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคงจากแหล่งผลิตถึงผู้ใช้ปลายทาง