ความต้านทานไฟฟ้า (Resistance) คือ ความสามารถของวัสดุในการขัดขวางการไหลของกระแสไฟฟ้า โดยปริมาณความต้านทานนี้ถูกวัดในหน่วยที่เรียกว่าโอห์ม (Ohm) ซึ่งสัญลักษณ์แทนหน่วยคือ Ω
กฎของโอห์ม (Ohm’s Law) เป็นกฎพื้นฐานที่ใช้ในการคำนวณความต้านทานไฟฟ้า โดยมีสูตรดังนี้:
R=VIR = \frac{V}{I}R=IV
โดย:
- RRR คือ ความต้านทานไฟฟ้า (Resistance) วัดเป็นโอห์ม (Ω)
- VVV คือ แรงดันไฟฟ้า (Voltage) วัดเป็นโวลต์ (V)
- III คือ กระแสไฟฟ้า (Current) วัดเป็นแอมแปร์ (A)
วัสดุต่างๆ มีความต้านทานไฟฟ้าที่แตกต่างกัน วัสดุบางชนิดเช่น โลหะ มีความต้านทานต่ำ ซึ่งหมายความว่าสามารถให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ง่าย ในขณะที่วัสดุบางชนิดเช่น ยาง หรือแก้ว มีความต้านทานสูง จึงขัดขวางการไหลของกระแสไฟฟ้าได้ดี
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความต้านทานของวัสดุมีหลายประการ เช่น
- ชนิดของวัสดุ
- ความยาวของตัวนำ
- พื้นที่หน้าตัดของตัวนำ
- อุณหภูมิ
ความต้านทานเป็นปัจจัยสำคัญในการออกแบบวงจรไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากมันมีผลต่อการกระจายพลังงานและการทำงานของวงจรต่างๆ