ประเภทแบตเตอรี่
- ตะกั่วกรด ใช้สำหรับการสตาร์ทเครื่องยนต์ ปล่อยกระแสไฟฟ้าให้แอร์ วิทยุ หรือภายในห้องโดยสาร สามารถแบ่งเป็น 3 ประเภทย่อย ได้แก่ ประเภทน้ำ ประเภทแห้ง และประเภทกึ่งแห้งราคาไม่แพง สามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าค่อนข้างสูงและมีความปลอดภัย แต่มีอายุการใช้งานสั้น เหมาะสำหรับการใช้สำรองไฟ เนื่องด้วยการใช้งานในอุณหภูมิต่ำ จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานลดลง พบการใช้งานในรถยนต์ HEV , PHEV และ BEV เช่น Tesla Model 3
- ลิเธียมไอออน พบการใช้งานในเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปและรถยนต์ EV เช่น TESlA , ORA Good Cat , Mini Cooper SE , Nissan Leaf และ BMW เป็นต้น มีอายุการใช้งานนาน สามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้มาก สามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าได้เสถียรและคงที่ รองรับระบบ Fast Charge สามารถใช้งานได้ปกติ แม้ชาร์จแบตเตอรี่ไม่ครบ 100% มีรอบการชาร์จประมาณ 500-10,000 ครั้ง อุณหภูมิของแบตเตอรี่มีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งอุณหภูมิสำหรับการทำงานปกติอยู่ระหว่าง 20-60 องศาเซลเซียส และไม่ควรมีความร้อนสะสมเกิน 500 องศาเซลเซียส เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้หรือระเบิด ซึ่งภายในรถยนต์ไฟฟ้ามีการติดตั้งระบบหล่อเย็น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
- นิกเกิล-เมทัลไฮไดรด์ มีอายุการใช้งาน ความคงทนต่อการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศมากกว่าประเภทตะกั่วและประเภทลิเธียมไอออน แต่เก็บพลังงานไฟฟ้าได้น้อยกว่า มีพลังงานความร้อนสูงเนื่องจากการคายประจุที่สูง และมีราคาสูงเนื่องด้วยผลิตจากโลหะไทเทเนียม พบการใช้งานในรถยนต์ HEV , PHEV เช่น Toyota Corolla Hybrid , Toyota Camry Hybrid และ Honda Accord Hybrid
- โซลิดสเตต เป็นแบตเตอรี่ประเภทแข็ง มีความเสถียรส่งผลต่อประสิทธิภาพในการชาร์จ สามารถชาร์จได้เร็วขึ้น และมีความจุมากกว่าแบตเตอรี่ทุกประเภท มีโอกาสติดไฟต่ำ เนื่องด้วยไม่มีอิเล็กโทรไลต์เหลว แต่ต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้งานจากแรงกระแทกแตกหักหรือความเสียหาย มีต้นทุนการผลิตสูงกว่าประเภทลิเธียมไอออนประมาณ 8 เท่า พบการใช้งานในเครื่องกระตุ้นหัวใจ , Smart Watch และรถยนต์ EV ภายในปี 2025-2030 เช่น Toyota , BMW
- โซเดียมไอออน มีอายุการใช้งานประมาณ 8,000-10,000 ครั้ง ใช้เวลาในการชาร์จครบ 100% ประมาณ 20 นาที คงทนต่ออุณหภูมิสูง-ต่ำ และมีต้นทุนการผลิตถูกกว่าประเภทลิเธียมไอออนประมาณ 3-4 เท่า แต่ให้พลังงานไฟฟ้าได้น้อยกว่า จึงส่งผลต่อระยะทางในการขับเคลื่อนได้สั้นกว่า และมีน้ำหนักของแบคเคอรี่มากกว่า พบการใช้งานในรถยนต์ Mini Car Seagull
- ตัวเก็บประจุไฟฟ้า มีอายุการใช้งานยาวนาน คงทน สามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้มีประสิทธิภาพและสูงกว่าแบตเตอรี่อิเล็กโทรไลต์ทั่วไป มีรอบการชาร์จประมาณ 100,000-1,0000,000 ครั้ง และชาร์จได้เร็วกว่าแบตเตอรี่ทั่วไปประมาณ 1,000 เท่า แต่เก็บพลังงานไฟฟ้าได้น้อยกว่าแบตเตอรี่ทั่วไปซึ่งมีขนาดเท่ากัน การจ่ายไฟฟ้าไม่เสถียร มีการคายประจุประมาณ 10-20% ต่อวัน และมีกำลังไฟลดลงเมื่อผ่านอายุการใช้งาน มีราคาสูง พบการใช้งานในการเพิ่มแรงอัดฉีดขณะสตาร์ทหรือขณะขับเคลื่อนบริเวณทางโค้งของ Super Car เช่น Lamborghini
HOTLINE-061-417-5732
https://www.facebook.com/changfidotcom
Line: @changfi
ผู้เขียน เกตน์สิรี รัตนแก้วมณี
ช่างไฟดอทคอม
ช่างไฟที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ