ความปลอดภัยภายในครัวเรือนจากไฟฟ้า ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องควรระวังเป็นอย่างยิ่ง ผู้อาศัยจะต้องทำการหมั่นตรวจเช็คเพื่อความปลอดภัย เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดฝันจากการเกิดกระแสไฟรั่ว อาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของผู้อยู่อาศัยเลยก็ว่าได้ ซึ่งการเกิดกระแสไฟรั่วนั้น อาจเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ดังนั้น ไม่ควรละเลยอย่างยิ่ง วันนี้ เราจึงจะมาแนะนำวิธีตรวจเช็คไฟรั่วด้วยตนเองง่ายๆ เพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันกระแสไฟรั่วเบื้องต้น เพราะไฟฟ้า เมื่อยิ่งใช้งานไปนานๆ ย่อมทำให้เกิดการเสื่อมสภาพได้
วิธีตรวจเช็คไฟรั่ว ด้วยวิธีต่างๆ ที่เราจะมาแนะนำนั้น จะมีวิธีดังต่อไปนี้
- ทดสอบด้วยหลอดไฟ
วิธีนี้จะเป็นการตรวจเช็คสำหรับผู้ที่ไม่มีอุปกรณ์เครื่องมือเฉพาะ โดยให้นำสายไฟมาต่อกับหลอดไฟที่ได้เตรียมไว้ จากนั้นให้นำไปเสียบเข้ากับเต้าเสียบ เพื่อดูว่ามีไฟติดหรือไม่ หากไฟติด หมายความว่ามีไฟฟ้าไหลเวียนอยู่ภายในวงจร จากนั้นจึงเปลี่ยนเต้าเสียบไปเรื่อยๆ เพื่อทดสอบว่าแต่ละเต้านั้นมีไฟติดเท่ากันหรือไม่ หากไม่เท่ากัน แปลว่ามีสายดินชำรุดหรือขาดอยู่
- นำแท่งกราวด์ต่อกับสายดินในตู้ตอนซูมเมอร์
ให้นำแท่งกราวด์หรือหลักดิน เชื่อมต่อเข้ากับเครื่องคอนซูมเมอร์ จากนั้น ให้ใช้แอมป์มิเตอร์ ตรวจเช็คค่าการทำงานของกระแสไฟ
- ตรวจเช็คด้วยเครื่องมัลติมิเตอร์
เครื่องมือสำหรับวัดกระแสไฟฟ้า ให้นำไปต่อสายเข้ากับเต้าเสียบ โดยให้ใช้ปลายสายของมิเตอร์ ทำการวัดไฟจากเต้าเสียบ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- วัดขั้ว N – สาย L หรือไลน์ ให้ได้แรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ 220V
- วัดขั้น N – สาย G หรือกราวด์ ให้ได้แรงดันไฟฟ้า 0-2V หากวัดได้ประมาณ 110v แปลว่าสายดินมีปัญหา
- วัดขั้ว G – สาย L หรือไลน์ ให้ได้แรงดันไฟฟ้า 220V
- ตรวจสอบสายดิน
ให้ทำการตรวจสอบสายดิน ด้วยการสังเกตว่าบริเวณสายนั้น มีการปริขาด รอยไหม้ หรือมีประกายไฟหรือไม่ หากมี อาจเกิดจากส่วนที่เป็นทองแดงของสายดิน ได้รับความเสียหาย
- ไขควงเช็คไฟ
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ตรวจสอบกระแสไฟรั่ว ได้อย่างง่ายดาย เพียงนำไขควงเช็คไฟไปสัมผัสบริเวณสายไฟ หากมีแสงไฟเกิดขึ้นบริเวณไขควง หรือมีเลขแรงดันไฟฟ้าขึ้น แปลว่ามีกระแสไฟรั่ว
HOTLINE-061-417-5732
https://www.facebook.com/changfidotcom
Line: @changfi
ผู้เขียน ขวัญหทัย ลิ้มประเสริฐ
ช่างไฟดอทคอม
ช่างไฟที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ