น้ำยาแอร์ คือ หนึ่งในสารทำความเย็น ซึ่งมันจะค่อย ๆ หมดลงเมื่อเวลาผ่านไป สารทำความเย็น แต่จะหมุนเวียนไปตามเครื่องปรับอากาศ หรือ ปั๊มความร้อนอย่างต่อเนื่อง เพื่อถ่ายเทความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างสภาพอากาศในร่มที่ให้ความรู้สะดวกสบาย สารทำความเย็นเป็นสารเคมีที่ช่วยให้เครื่องปรับอากาศภายในห้องเย็นลง โดยการหมุนเวียนความร้อนจากภายในบ้าน ออกสู่ภายนอกของบ้าน ซึ่งประเภทของสารทำความเย็น ประกอบไปด้วย สารทำความเย็น R-22 หรือ R-410A ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ประเภทของสารทำความเย็นนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นของเครื่องปรับอากาศภายในบ้านของเราด้วย
คำถามที่ควรส่วนใหญ่มักเป็นกังวลคือ เครื่องปรับอากาศที่บ้านควรเปลี่ยนน้ำยาแอร์เมื่อไหร่ ซึ่งแน่นอนว่าสารทำความเย็นที่มีอยู่ในระบบทำความเย็นโดยรวมแล้วจะไม่หมดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสารเหล่านี้จะถูกนำกลับมาใช้ใหม่อย่างต่อเนื่องภายในระบบของเครื่องปรับอากาศ เว้นแต่ระบบจะเกิดการรั่วไหล หรือ พบปัญหาในระบบหมุนเวียน จริง ๆ แล้วสารทำความเย็นจะมีอายุการใช้งานยาวนานหลายปี หรือ เครื่องปรับอากาศบางประเภทไม่จำเป็นต้องเติมสารทำความเย็นเลย เว้นแต่จะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบ โดยสัญญาณของการรั่วไหลส่วนใหญ่ ของสารทำความเย็น จะประกอบไปด้วยสาเหตุหลัก ๆ ดังนี้
- มีลมร้อนมาจากช่องระบายอากาศ
- ค่าไฟฟ้าสูงกว่าปกติ
- เกิดน้ำแข็งบนสายสารทำความเย็น
- คอยล์เย็นจนเกิดการแช่แข็ง
- มีเสียงฟู่ หรือ เป็นฟองออกมาจากท่อสารทำความเย็น
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนชิ้นส่วนของสารทำความเย็น ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดการรั่วไหล ในกรณีส่วนใหญ่ การดูแลการรั่วไหลด้วยการเติมน้ำยาเพียงเล็กน้อยจะทำให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่แพงกว่าในการเปลี่ยน เมื่อเกิดการรั่วไหลขนาดใหญ่ สามารถติดต่อกับผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้ก่อน และระบบเติมน้ำยาสามารถเลือกใช้ได้ในกรณีที่มีการรั่วไหลเพียงเล็กน้อย ดังนั้น หากพบสารทำความเย็นรั่วไหล ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนเสมอว่า ติดต่อฝ่ายเทคนิคเพื่อเข้าสู่การซ่อมแซมรอยรั่วก่อน ที่จะเติมสารทำความเย็นเข้าไปทุกครั้ง