ชายผู้ทำลาย โทมัส อันวา เอดิสัน ทางธุรกิจลงอย่างราบคาบ ด้วยหนทางด้านธุรกิจเช่นเดียวกัน โดยเขาได้พบกับอัจฉริยะทางไฟฟ้า ซึ่งตอนนั้นกำลังทำงานเป็นกรรมกรและอยู่อย่างยากลำบาก
จอร์จ เวสติ้งเฮาส์ เขาใช้ชีวิตตลอดสิบเจ็ดชั่วโมงต่อวัน และหกวันต่อสัปดาห์ อยู่ในโรงนาของพ่อ เพื่อทำการประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ ขึ้นมา ในวัยเพียงยี่สิบกว่าเขานำสิ่งประดิษฐ์ไปเสนอขายให้รถไฟ ซึ่งตอนนั้นใช้ระบบเบรกมือในการหยุดรถไฟทั้งขบวน โดยแต่ก่อนจะเบรกทีใช้เวลาเป็นไมล์
ผลงานของเขาไม่ได้รับการตอบรับจากเหล่าบริษัทเดินรถเหล่านั้น เพราะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เขาได้รับการปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า จนสุดท้ายมีบริษัทหนึ่งให้โอกาสทดลองสินค้าของเขา ซึ่งไม่มีใครใส่ใจอะไรกับเบรกที่เขาเสนอ แต่ระหว่างทางมีคนควบม้าห้อเตลิดมาอยู่บนรางรถไฟ เพราะม้าเกิดอาการตกใจ แต่คนบนรถตกใจยิ่งกว่า จึงได้ทำการเบรกรถไฟทั้งขบวนทันที
คงพอได้คำตอบว่า สิ่งประดิษฐ์ของเขาได้รับการยอมรับมาจากอะไร และไม่เพียงสิ่งประดิษฐ์อันเดียว เขาสร้างสิ่งประดิษฐ์นับไม่ถ้วน แม้เขาจะกลายเป็นเด็กหนุ่มที่ประสบความสำเร็จด้านการเงินมหาศาลมากเพียงใด แต่เขายังคงใช้ชีวิตอยู่ในโรงนาเหมือนเดิม จนเริ่มสนใจเรื่องของกระแสไฟฟ้า เหมือนมีเหตุให้ได้พบกับผู้ช่วยให้เขาเปลี่ยนโลกใบนี้ กรรมกรที่เคยทำงานกับ โทมัส อันวา เอดิสัน นั่นคือ นิโคลา เทสลา เขาถามเรื่องความเป็นไปได้ที่จะสร้างกระแสสลับ ซึ่งราคาถูก และดีกว่ากระแสตรง โดยเทสลา สามารถทำให้เขาเห็น และเขาก็สามารถทำให้ชาวเมืองมีแสงไฟใช้อย่างทั่วถึง
สุดท้ายเขาก็ฆ่าวงจรไฟกระแสตรงลงกับมือ ความรุ่งเรืองของกระแสสลับทำให้เขายังได้รับความไว้ใจให้พัฒนาระบบกระแสสลับที่แม่น้ำไนแองการา ธุรกิจของเขาพุ่งไกลมากจนเขาเองกลับกลายเป็นล่มสลายลงเพราะเกินควบคุม ราวกับสิ่งที่ทำกับเอดิสันได้ย้อนมาสู่ตัวเอง!!
แต่ถึงอย่างไรเสีย จอร์จ เวสติงเฮาส์ ก็เหมือนได้ชื่อว่ามีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการใช้พลังงานไฟฟ้าให้ได้รับความแพร่หลายมากขึ้นจนเป็นที่ยอมรับจนทุกวันนี้