สนามไฟฟ้ากับสนามแม่เหล็ก โดยทั่วไปมักจะเรียกรวมกันว่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นการแสดงขอบเขตและความเข้มของเส้นแรงที่เกิดขึ้นระหว่างวัตถุที่มีความแตกต่างกันของศักย์ไฟฟ้าหรือแรงดันไฟฟ้าเรียกว่า สนามไฟฟ้า และเส้นที่เกิดขึ้นโดยรอบวัตถุที่มีกระแสไฟฟ้าไหลเรียกว่า สนามแม่เหล็ก โดยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า จะแบ่งลักษณะการเกิดได้ 2 กรณี คือ เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น คลื่นรังสีจากแสงอาทิตย์ คลื่นฟ้าผ่า เป็นต้น และเกิดขึ้นจากการสร้างขึ้นของมนุษย์
แม่เหล็ก หรือ โมเลกุลของสารแม่เหล็ก สามารถจะเกิดแรงกระทำกับโมเลกุลของแม่เหล็กที่เหมือนกันได้ จะเห็นว่าเมื่อแขวนแท่งแม่เหล็กขั้วเหนือ (N) อย่างอิสระจะชี้ทิศไปทางขั้วโลกเหนือ ในส่วนของขั้วใต้ (S) จะชี้ทิศขั้วโลกใต้ จึงทำให้เชื่อได้ว่าโลกมีพลังงานแม่เหล็ก โดยขั้วเหนือ (N) ของแม่เหล็ก อยู่ทางขั้วโลกใต้ทางภูมิศาสตร์และมีขั้วใต้ (S) ของแม่เหล็กอยู่ทางขั้วเหนือทางภูมิศาสตร์ โดยจะมีการทำมุมกันเพียงเล็กน้อย
สนามไฟฟ้า ก็คือพื้นที่บริเวณโดยรอบเรียกว่า สนามไฟฟ้า ที่จะมีศักย์ไฟฟ้าที่มีค่าแตกต่างอีกทั้งประจุไฟฟ้าที่อยู่โดยรอบนั้นสามารถส่งอำนาจไปถึงบริเวณที่มีการนำประจุไฟฟ้าเข้าไปวาง และทำให้เกิดแรงกระทำบนประจุไฟฟ้านั้น ในบริเวณสนามไฟฟ้าจะมีความเข้มของสนามไฟฟ้าที่ต่างกัน ยิ่งอยู่ใกล้ประจุไฟฟ้ามากเท่าไหร่จะมีความเข้มของสนามไฟฟ้ามาก และในจุดที่อยู่ภายในบริเวณสนามไฟฟ้าที่มีศักย์ไฟฟ้าเป็นชนิดเดียวกันกับศักย์ไฟฟ้าที่เกิดจากประจุไฟฟ้าเป็นเจ้าของสนามไฟนั้น ทำให้จุดที่อยู่ใกล้ประจุไฟฟ้ามีศักย์ไฟฟ้าสูงกว่าจุดที่อยู่ไกลออกไปนั่นเอง