กระแสไฟฟ้ารั่ว คือ ปรากฏการณ์ที่กระแสไฟฟ้านั้นได้มีการรั่วไหลออกจากวงจรไฟฟ้าไปยังผิวของสายไฟฟ้า โครงสร้างของอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ หรือ ผนังของจุดที่ทำการติดตั้งระบบ เป็นต้น
โดยกระแสไฟฟ้ารั่วนี้ เป็นกระแสไฟที่ส่งผลให้เกิดอันตรายถึงชีวิตต่อตัวผู้ที่ทำการสัมผัสกระแสไฟฟ้าโดยตรง และผู้ที่อยู่อาศัยบริเวณที่ใกล้กับจุดที่มีกระแสไฟฟ้ารั่วไหล ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้นำวิธีการดี ๆ ในการตรวจสอบกระแสไฟฟ้ารั่วไหล มาฝากทุกคน เพื่อที่ทุกคนจะได้ลองไปตรวจเช็คระบบไฟฟ้าภายในบ้านดูว่า มีระบบไฟฟ้าจุดไหนภายในบ้านที่เสี่ยงต่อการเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วไหลออกมาหรือไม่
วิธีการตรวจสอบกระแสไฟฟ้ารั่วไหลภายในบ้าน มีอยู่ด้วยกัน ดังนี้
ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านให้หมด โดยในขั้นตอนนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องดึงเบรกเกอร์หรือสับคัทเอาท์ลง จากนั้นให้เราลองสังเกตจากมิเตอร์ที่มีการติดตั้งภายในบ้านของเราว่า แผ่นจานที่อยู่ภายในมิเตอร์นั้นมีการหมุนอยู่หรือไม่ ในกรณีที่แผ่นจานนั้นยังหมุนอยู่ ให้เราลองทำการตรวจสอบอีกรอบว่า เราได้ทำการปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านหมดแล้วจริงหรือไม่ แต่ถ้าหากเราลองตรวจสอบแล้วพบว่า เราปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าหมดทุกอย่างภายในบ้านแล้ว นั่นหมายถึง ภายในบ้านของเรานั้นมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลอยู่
ในกรณีที่เราทำการตรวจสอบแล้วพบว่า จานภายในมิเตอร์ไม่หมุน แต่เราก็ยังไม่แน่ใจว่าไม่มีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลภายในบ้าน ให้เราลองทำการจดหมายเลขของมิเตอร์ และจดจำตำแหน่งของแผ่นจานว่าหยุดหมุนที่ตรงตำแหน่งใด จากนั้นให้เราลองปล่อยทิ้งเอาไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง โดยเมื่อครบเวลาที่กำหนดให้เราลองสังเกตดูว่าทุกอย่างยังเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ หากทุกอย่างนั้นยังเป็นเหมือนเดิม แสดงว่าภายในบ้านของเรานั้นไม่มีกระแสไฟฟ้ารั่วไหล
ในกรณีที่เรายังรู้สึกไม่มั่นใจว่าภายในบ้านของเรานั้นไม่มีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลอยู่จริง ๆ เราอาจจะลองใช้อุปกรณ์อย่าง “ไขควงวัดไฟ” แตะไปที่ระบบไฟฟ้า หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้านดู โดยถ้าหากมีสีแดงปรากฏขึ้นมาที่ไขควง แสดงว่าเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วไหลที่ระบบไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ๆ