สายพาน เป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญกับงานอุตสาหกรรม นิยมนำมาใช้ในการคล้องโยงเครื่องจักรต่าง ๆ ให้ทำงานไปด้วยกัน สายพานมีคุณสมบัติในการรับแรงสั่นสะเทือนได้ดี อีกทั้งขณะใช้งานยังไม่มีเสียงดังรบกวนอีกด้วย จึงเหมาะสำหรับการส่งกำลังระหว่างเพลาที่อยู่ห่างกันมาก ๆ หรือใช้เป็นส่วนรองรับวัสดุสิ่งของต่าง ๆ ทำให้วัสดุที่อยู่บนสายพานนั้นเคลื่อนที่ตามสายพาน
โดยในปัจจุบัน สายพานมีอยู่ด้วยกัน 4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
- สายพานแบน (Flat Belt)
เป็นสายพานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาประเภทของสายพานทั้งหมด ที่มีลักษณะเป็นหน้าตัดรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ใช้ในการส่งถ่ายกำลังจากพูลเลย์ (Pulley) ของเพลาขับ ไปยังพูลเลย์ของเพลาตาม ซึ่งเป็นอุปกรณ์หรือเครื่องจักรที่เราต้องการให้เกิดการทำงาน เช่น ปั๊มน้ำ หรือ พัดลม
สายพานแบน ยังสามารถแบ่งออกได้อีก 3 ประเภท ดังนี้
1.1) Light Drives
เป็นสายพานที่ใช้กับงานเบา โดยความเร็วของสายพาน ขณะที่มีการใช้งานนั้นต้องไม่เกิน 10 m/s
1.2) Medium Drives
เป็นสายพานที่ใช้กับงานหนักปานกลาง โดยความเร็วของสายพาน ขณะที่มีการใช้งานนั้นต้องอยู่ในระหว่าง 10 – 22 m/s
1.3) Heavy Drives
เป็นสายพานที่ใช้กับงานหนัก โดยความเร็วของสายพาน ขณะที่มีการใช้งานนั้นต้องสูงกว่า 22 m/s
- สายพานวี (V – Belt)
เป็นสายพานที่นิยมนำมาใช้กับเครื่องจักรกลตามโรงงานต่าง ๆ เป็นสายพานที่สามารถส่งกำลังไปยังตำแหน่งต่าง ๆ ที่ต้องการได้ แต่ไม่สามารถส่งกำลังแบบไขว้เหมือนกับสายพานแบนได้ ทำให้สายพานประเภทนี้มักจะถูกนำมาใช้เป็นสายพานของเครื่องกลึง หรือ สายพานของรถไถนาเดินตาม เป็นต้น
สายพานวี สามารถแบ่งออกได้อีก 4 ประเภท ดังนี้
2.1) สายพานวีปกติ
เป็นสายพานที่นิยมนำมาใช้กับงานทั่ว ๆ ไป เช่น เครื่องจักรกลธรรมดา ที่ใช้ความเร็วรอบไม่มากนัก เป็นสายพานที่ทำมาจากแผ่นยางสลับกับผ้าใบเป็นชั้น ๆ
2.2) สายพานวีแหลม
เป็นสายพานที่มีความสามารถในการกระจายแรงตามแนวรัศมีไปยังแผ่นปิดที่อยู่ด้านบนของสายพานอย่างสม่ำเสมอตลอดหน้ากว้าง จึงเหมาะที่จะนำมาใช้ควบคู่กับแกนเพลาที่มีระยะห่างมาก ๆ และรับแรงสูง
2.3) สายพานร่องวีร่วม
เป็นสายพานที่ในปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยมันจะมีลักษณะเป็นลิ่มหลายลิ่มมารวมกันในเส้นเดียว จึงทำให้สายพานประเภทนี้มีแผ่นปิดยางสังเคราะห์ จึงเหมาะสำหรับงานที่มีการถ่ายเทโมเมนต์หมุนที่ไม่สม่ำเสมอ หรือ ระยะห่างของแกนเพลามีค่ามาก ๆ
2.4) สายพานหลายรูปพรรณ
เป็นสายพานที่ผิวชั้นบนจะมีพลาสติกหุ้มอยู่โดยรอบ ทำหน้าที่ในการรับแรงดึง ส่วนเนื้อสายพานประเภทนี้จะเป็นแบบสายพานร่องวี ที่มีลักษณะเป็นสายพานที่เรียงต่อกัน ซึ่งจะทำให้สามารถสวมสัมผัสผิวของร่องล้อพลูเลย์ได้อย่างแนบสนิท สายพานประเภทนี้จึงเหมาะกับงานที่มีอัตราทดสูงมาก ๆ
2.5) สายพานวีหน้ากว้าง
เป็นสายพานที่มีรูปร่างที่พิเศษไม่เหมือนสายพานประเภทอื่น ๆ นิยมนำมาใช้ในการส่งกำลังที่มีการปรับความเร็วรอบตามความต้องการ
- สายพานกลม (Round Belt)
เป็นสายพานที่มีหน้าตัดเป็นรูปวงกลม เป็นสายพานที่มีแรงในการส่งกำลังที่มีความยืดหยุ่นสูงมาก อีกทั้งยังสามารถปรับตั้งทิศทางการหมุนได้หลายทิศทางตามความต้องการของผู้ใช้งาน สายพานประเภทนี้ผลิตมาจากพลาสติกโพลียูรีเทน จึงทำให้มีคุณสมบัติในการต้านทานน้ำ น้ำมัน จาระบี และน้ำมันเบนซิน อีกทั้งสายพานประเภทนี้ยังไม่มีเสียงดังรบกวน ในขณะที่กำลังทำงานอีกด้วย
- สายพานไทม์มิ่ง (Timing Belt)
เป็นสายพานที่มีหน้าตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ที่หุ้มด้วยเส้นใยไนลอน เพื่อลดการสึกหรอ มีฟันเฟืองล้อมรอบตลอดความยาวของสายพาน แกนรับแรงทำมาจากลวดเหล็กกล้า หรือ ทำมาจากลวดไฟเบอร์ฝังอยู่ในยางเทียม ซึ่งก็คือ ฟันของสายพาน จึงทำให้สายพานประเภทนี้มีความสามารถในการงอตัวได้ดี นิยมนำมาใช้กับพูลเลย์ล้อเล็ก ๆ ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 16 มิลลิเมตร เนื่องจากร่องสายพานนั้นมีขนาดเดียวกับร่องพูลเลย์ ทำให้เมื่อเกิดการขบกัน จะไม่ทำให้เกิดการลื่นไถลขณะส่งกำลัง สามารถนำสายพานประเภทนี้มาใช้เป็นตัวส่งกำลังงานในเครื่องยนต์ได้ โดยเป็นตัวขับเฟืองเพลา ข้อเหวี่ยง และเพลาราวลิ้น อีกทั้งสายพานประเภทนี้ยังไม่มีเสียงดังรบกวนขณะทำงานอีกด้วย