กำหนดที่สำคัญมากที่สุดอย่างหนึ่งในการออกแบบ และ ติดตั้งระบบไฟฟ้า คือ การต่อลงดิน มาตรฐานการติดตั้งระบบไฟฟ้ที่สำคัญๆ ของโลก เช่น NEC และ IEC ต่างก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
NEC Article 250 ” Grounding and Bonding “
364-5-54 ” Earthing Arrangement and Protective Cond
สำหรับไทยนั้น วิศวกรรมสถานแห่งประทศไทย การต่อลงดิน “ในมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย
หนดในการต่อลงดินของ วสท. ส่วนมากแปลและเรียบเรียงจาก NEC Araticle 250
การต่อลงดิน มีประโยชน์อยู่ 2 ประการ คือ
1.เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับบุคคลที่บังเอิญไปสัมผัสกับส่วนที่เป็นโลหะของเครื่องบริภัณฑ์ไฟฟ้า และ
ส่วนประกอบอื่นๆ ที่มีแรงดันไฟฟ้า เนื่องจากการรั่วไหล หรือ การเหนี่ยวนำทางไฟฟ้า
2.เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับอุปกรณ์ หรือ ระบบไฟฟ้าเมื่อเกิดการลัดวงจรลงดิน
ชนิดการต่อลงดินและส่วนประกอบต่างๆ
การต่อลงดินสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ
1.การต่อลงดินของระบบไฟฟ้า ( System grounding )
2.การต่อลงดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้า ( Equipment Grounding )
การต่อลงดินของระบบไฟฟ้า หมายถึง การต่อส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบไฟฟ้าที่มีกระแสไหลผ่านลงดิน เช่น การต่อจุดนิวทรัล ( Neutral Point ) ลงดิน
การต่อลงดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้า หมายถึง การต่อส่วนที่เป็นโลหะที่ไม่มีกระแสไหลผ่านของอุปกรณ์ต่างๆ ลงดินการต่อลงดินมีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ
1.ลักดิน หรือ ระบบหลักดิน ( Grounding Electrode or Grounding Electrode )
2.สายต่อหลักดิน ( Grounding Electrode Conductor )
3.สายที่มีการต่อลงดิน ( Grounded Conductor )
4.สายต่อฝากหลัก ( Main Bonding Jumper )
5.สายดินของบริภัณฑ์ไฟฟ้า ( Equipment Grounding Conducto )
6.สายต่อฝากบริภัณฑ์ไฟฟ้า ( Equipment Bonding Jumpe )
ผู้เขียน : กิตติพงศ์ ทองเงิน
ช่างไฟดอทคอม
ช่างไฟที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ