
อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ปิดเครื่องแต่ยังเสียบปลั๊กอยู่ ยังกินไฟหรือไม่ ?
หลายคนอาจเข้าใจว่าการปิดโทรทัศน์ เครื่องเสียง หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ หมายความว่าอุปกรณ์เหล่านั้นจะหยุดใช้พลังงานไฟฟ้าโดยสิ้นเชิง แต่ในความเป็นจริง อุปกรณ์หลายชนิดยังคงใช้พลังงานไฟฟ้าอยู่แม้จะปิดเครื่องแต่ยังเสียบปลั๊กไว้ ซึ่งอาจทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่รู้ตัว
ทำไมอุปกรณ์ถึงยังใช้พลังงาน?
- วงจรสแตนด์บาย (Standby Power) – อุปกรณ์หลายประเภท เช่น โทรทัศน์ เครื่องเสียง หรือคอมพิวเตอร์ มีวงจรสแตนด์บายที่รอรับคำสั่งเปิดเครื่อง เช่น จากรีโมตคอนโทรล หรือปุ่มเปิดเครื่อง ทำให้ยังต้องใช้พลังงานเล็กน้อยตลอดเวลา
- อะแดปเตอร์หรือหม้อแปลงไฟ (Power Adapter/Transformer) – อุปกรณ์ที่มีหม้อแปลงไฟ เช่น เครื่องเล่นดีวีดี หรือเครื่องขยายเสียง อาจยังคงใช้ไฟฟ้าแม้ปิดเครื่อง เนื่องจากหม้อแปลงยังทำงานอยู่ถ้าเสียบปลั๊กทิ้งไว้
- อุปกรณ์ที่มีจอแสดงผลหรือไฟ LED – อุปกรณ์บางชนิด เช่น โทรทัศน์หรือเครื่องเสียงที่มีไฟแสดงสถานะ หรือหน้าจอแสดงเวลา ยังคงต้องใช้ไฟฟ้าเล็กน้อยเพื่อให้จอทำงานได้
อุปกรณ์ในโหมดสแตนด์บายกินไฟมากน้อยแค่ไหน?
พลังงานที่ใช้งานในโหมดสแตนด์บายอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทและเทคโนโลยีของอุปกรณ์ โดยทั่วไปจะใช้พลังงานระหว่าง 0.5 – 10 วัตต์ ต่อเครื่อง ซึ่งดูเหมือนเป็นปริมาณน้อย แต่หากมีอุปกรณ์หลายชิ้นที่เสียบปลั๊กทิ้งไว้ตลอดทั้งวัน ค่าไฟอาจเพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
วิธีลดการใช้พลังงานไฟฟ้าที่สิ้นเปลือง
- ถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้งาน – โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้งานบ่อย เช่น เครื่องเล่นดีวีดี หรือเครื่องเสียงขนาดใหญ่
- ใช้ปลั๊กพ่วงแบบมีสวิตช์ปิด-เปิด – สามารถตัดกระแสไฟของอุปกรณ์หลายชิ้นพร้อมกันได้ง่ายและสะดวก
- เลือกใช้อุปกรณ์ที่มีฉลาก Energy Star – อุปกรณ์ที่ได้รับมาตรฐาน Energy Star มักได้รับการออกแบบให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และมีโหมดสแตนด์บายที่ใช้พลังงานต่ำ
- ใช้เครื่องวัดกำลังไฟ (Watt Meter) – หากต้องการทราบว่ามีอุปกรณ์ใดในบ้านใช้ไฟแม้ปิดเครื่องแล้ว สามารถใช้เครื่องวัดกำลังไฟเพื่อตรวจสอบและบริหารการใช้พลังงานได้
สรุป
แม้ว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าจะถูกปิด แต่ถ้ายังเสียบปลั๊กอยู่ มันอาจยังคงใช้พลังงานไฟฟ้าอยู่บ้าง ซึ่งหากรวมกันหลายๆ เครื่อง อาจเป็นภาระต่อค่าไฟฟ้าของบ้านโดยไม่รู้ตัว การเลือกใช้วิธีประหยัดพลังงาน เช่น ถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้งาน หรือใช้ปลั๊กพ่วงที่มีสวิตช์ จะช่วยลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น และช่วยประหยัดค่าไฟได้ในระยะยาว
ขั้นตอนการใช้บริการ
แอดไลน์ > แจ้งปัญหา > รอราคา > ตกลงราคา > รับบริการ

