Load Shedding คือ ? มีผลอย่างไรต่อระบบไฟฟ้า

Load Shedding
Load Shedding

Load Shedding คือ การตัดไฟฟ้าหรือการแบ่งเบาภาระโหลด ในระบบไฟฟ้าโดยเจตนา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟฟ้าดับในวงกว้าง (Blackout) เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงเกินกว่าที่ระบบสามารถจ่ายได้ หรือเมื่อมีปัญหาด้านการผลิตและการส่งจ่ายไฟฟ้า

สาเหตุของ Load Shedding

  1. กำลังการผลิตไม่เพียงพอ – โรงไฟฟ้าผลิตไฟฟ้าได้น้อยกว่าความต้องการ เช่น ช่วงที่มีอากาศร้อนจัด การใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นจนเกินขีดจำกัด
  2. ปัญหาด้านการส่งจ่ายไฟฟ้า – สายส่งหรือสถานีไฟฟ้าย่อยเกิดความขัดข้องหรือเสียหาย
  3. เชื้อเพลิงขาดแคลน – โรงไฟฟ้าไม่มีเชื้อเพลิงเพียงพอ เช่น ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ หรือน้ำมัน
  4. เหตุฉุกเฉินในระบบไฟฟ้า – เช่น ฟ้าผ่า แผ่นดินไหว หรือพายุที่ทำให้โครงข่ายไฟฟ้าเสียหาย

ผลกระทบของ Load Shedding

  1. ต่อผู้ใช้ไฟฟ้า – เกิดไฟดับเป็นช่วง ๆ ส่งผลต่อความสะดวกสบายและการทำงานในบ้านเรือน สำนักงาน และโรงงาน
  2. ต่อเศรษฐกิจ – โรงงานอุตสาหกรรมและธุรกิจอาจต้องหยุดการผลิต ทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ
  3. ต่อโครงข่ายไฟฟ้า – หากไม่มี Load Shedding ระบบไฟฟ้าอาจล่มทั้งประเทศ ส่งผลเสียรุนแรงกว่า
  4. ต่อบริการสำคัญ – โรงพยาบาล สถานีตำรวจ หรือระบบขนส่งอาจได้รับผลกระทบหากไม่มีแหล่งพลังงานสำรอง

การจัดการ Load Shedding

  • วางแผนตัดไฟเป็นโซน ๆ เพื่อให้ผลกระทบน้อยที่สุด
  • ใช้พลังงานสำรอง เช่น เครื่องปั่นไฟ หรือแบตเตอรี่สำรอง (UPS)
  • ปรับปรุงระบบผลิตและส่งจ่ายไฟฟ้าให้มีเสถียรภาพมากขึ้น

โดยสรุป Load Shedding เป็นมาตรการที่ใช้เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าในกรณีฉุกเฉิน แม้ว่าจะส่งผลกระทบต่อการใช้ไฟฟ้า แต่ก็เป็นวิธีป้องกันปัญหาใหญ่กว่า เช่น ไฟดับทั้งระบบ (Blackout)

ขั้นตอนการใช้บริการ

แอดไลน์ > แจ้งปัญหา > รอราคา > ตกลงราคา > รับบริการ

ขั้นตอนการให้บริการ
ไลน์ OA

HOTLINE-061-417-5732

https://www.facebook.com/changfidotcom

Line: @changfi

Load Shedding , การตัดไฟฟ้าหรือการแบ่งเบาภาระโหลด