ระบบสำรองไฟฟ้าเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าและระบบต่าง ๆ ดำเนินต่อไปได้อย่างไม่สะดุดเมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับหรือขัดข้อง ระบบสำรองไฟฟ้าที่นิยมใช้ ได้แก่ UPS (Uninterruptible Power Supply) และ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง ซึ่งทั้งสองมีบทบาทที่แตกต่างกันในด้านการสำรองไฟฟ้า:
1. ระบบสำรองไฟฟ้า UPS (Uninterruptible Power Supply)
UPS เป็นอุปกรณ์ที่ให้พลังงานไฟฟ้าสำรองแก่เครื่องใช้ไฟฟ้าในทันทีเมื่อเกิดไฟฟ้าดับหรือมีปัญหาแรงดันไฟฟ้า โดยไม่ทำให้อุปกรณ์หยุดทำงานชั่วคราว
คุณสมบัติและประเภทของ UPS
- การสำรองไฟแบบทันที: UPS จะให้พลังงานสำรองทันทีเมื่อเกิดไฟฟ้าดับ โดยมีเวลาในการสลับไปยังพลังงานสำรองเพียงไม่กี่มิลลิวินาที
- การป้องกันแรงดันไฟฟ้าผันผวน: UPS สามารถปรับแรงดันไฟฟ้าที่เข้ามาให้เสถียรเพื่อป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์
- การใช้งาน: ใช้ในการสำรองไฟให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญ เช่น คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์เครือข่าย
ประเภทของ UPS
- Offline/Standby UPS: ทำงานเมื่อไฟฟ้าหลักดับหรือแรงดันไฟฟ้าผันผวน โดยสลับไปใช้แบตเตอรี่สำรอง
- Line-interactive UPS: มีระบบปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติ (AVR) ที่สามารถปรับแรงดันไฟฟ้าที่เข้ามาก่อนจะส่งไปยังอุปกรณ์
- Online UPS: ระบบนี้ทำงานตลอดเวลา โดยพลังงานไฟฟ้าจะผ่านเครื่อง UPS ก่อนที่จะส่งไปยังอุปกรณ์ ช่วยให้แรงดันไฟฟ้าที่ส่งออกมีความเสถียรสูงสุด
2. เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง (Standby Generators)
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง เป็นระบบสำรองไฟฟ้าที่ใช้ในการจ่ายพลังงานไฟฟ้าทดแทนเมื่อเกิดไฟฟ้าดับ โดยใช้เครื่องยนต์ในการผลิตไฟฟ้า
คุณสมบัติและประเภทของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง
- กำลังไฟสูง: สามารถผลิตไฟฟ้าได้มากเพียงพอสำหรับการใช้งานในสถานที่ขนาดใหญ่ เช่น โรงพยาบาล โรงงาน หรืออาคารสำนักงาน
- การเริ่มทำงานอัตโนมัติ: เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสามารถเริ่มทำงานได้เองเมื่อไฟฟ้าหลักดับ โดยมีระบบควบคุมอัตโนมัติ (ATS) ในการสลับการจ่ายไฟ
- การใช้งานระยะยาว: เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสามารถทำงานได้เป็นเวลานานเท่าที่มีเชื้อเพลิงเพียงพอ ซึ่งต่างจาก UPS ที่สามารถสำรองไฟได้ในระยะเวลาสั้น ๆ
ประเภทของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง
- เครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดเล็ก: ใช้ในบ้านหรือสำนักงานขนาดเล็ก สามารถสำรองไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์พื้นฐาน เช่น ไฟส่องสว่าง และอุปกรณ์จำเป็นอื่น ๆ
- เครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดใหญ่: ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม หรืออาคารขนาดใหญ่ สามารถสำรองไฟให้กับระบบทั้งหมดของสถานที่นั้น ๆ ได้
การใช้งานร่วมกันของ UPS และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง
ในบางกรณีอาจมีการใช้ UPS และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าร่วมกันเพื่อเพิ่มความมั่นคงในการจ่ายไฟ โดย:
- UPS ทำหน้าที่สำรองไฟในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เกิดไฟฟ้าดับทันที และให้เวลาแก่เครื่องกำเนิดไฟฟ้าในการเริ่มทำงาน
- เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำหน้าที่จ่ายพลังงานระยะยาว เมื่อ UPS เริ่มหมดพลังงาน
การรวมการใช้ทั้ง UPS และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าช่วยให้มั่นใจได้ว่าระบบไฟฟ้าจะมีความต่อเนื่อง แม้ในกรณีที่เกิดไฟฟ้าดับนาน ๆ ช่วยป้องกันการหยุดชะงักของการทำงานในอุตสาหกรรมที่สำคัญ