เบรกเกอร์ (Circuit Breakers) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกันระบบไฟฟ้าจากความเสียหายที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าเกินพิกัด, การลัดวงจร หรือข้อผิดพลาดอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในระบบไฟฟ้า เบรกเกอร์จะทำงานโดยการตัดกระแสไฟฟ้าเมื่อเกิดความผิดปกติ เพื่อป้องกันอันตรายและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
ประเภทของเบรกเกอร์
- เบรกเกอร์ขนาดเล็ก (Miniature Circuit Breakers, MCB):
- ใช้ในวงจรไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น ในบ้านเรือนและสำนักงาน มีขนาดกระแสไฟตั้งแต่ 1 ถึง 100 แอมป์
- เบรกเกอร์ขนาดใหญ่ (Molded Case Circuit Breakers, MCCB):
- ใช้ในวงจรไฟฟ้าที่ต้องการรองรับกระแสไฟฟ้าสูงขึ้น เช่น ในอุตสาหกรรมหรืออาคารพาณิชย์ มีขนาดกระแสไฟตั้งแต่ 100 ถึง 2500 แอมป์
- เบรกเกอร์ไฟรั่ว (Residual Current Circuit Breakers, RCCB หรือ RCD):
- ใช้ในการตรวจจับกระแสไฟฟ้ารั่วลงดินและตัดกระแสไฟเมื่อพบความผิดปกติ เพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าช็อต
- เบรกเกอร์ไฟรั่วพร้อมป้องกันกระแสเกิน (Residual Current Circuit Breakers with Overcurrent Protection, RCBO):
- รวมคุณสมบัติของ MCB และ RCCB เข้าด้วยกัน สามารถป้องกันทั้งกระแสไฟรั่วและกระแสไฟเกินได้
- เบรกเกอร์แม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Circuit Breakers):
- ใช้หลักการแม่เหล็กไฟฟ้าในการตรวจจับและตัดกระแสไฟฟ้า มักใช้ในระบบที่ต้องการความรวดเร็วในการตัดวงจร
- เบรกเกอร์อากาศ (Air Circuit Breakers, ACB):
- ใช้ในระบบไฟฟ้าที่ต้องการรองรับกระแสไฟฟ้าสูงมาก มักใช้ในอุตสาหกรรมหรือการผลิตไฟฟ้า
- เบรกเกอร์สุญญากาศ (Vacuum Circuit Breakers, VCB):
- ใช้ในการตัดกระแสไฟฟ้าในระบบไฟฟ้าแรงสูง โดยใช้สุญญากาศเป็นตัวกลางในการดับประกายไฟ
การเลือกและการใช้งานเบรกเกอร์
- ขนาดกระแสไฟฟ้า (Current Rating):
- เลือกเบรกเกอร์ที่มีขนาดกระแสไฟฟ้าเหมาะสมกับการใช้งานและรองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุดที่วงจรนั้นจะต้องรับได้
- ประเภทของเบรกเกอร์:
- เลือกประเภทของเบรกเกอร์ที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน เช่น MCB สำหรับการใช้งานในบ้านหรือสำนักงาน, MCCB สำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรม
- การติดตั้งและการบำรุงรักษา:
- ควรติดตั้งเบรกเกอร์โดยช่างไฟฟ้าที่มีความเชี่ยวชาญ และตรวจสอบการทำงานของเบรกเกอร์เป็นระยะๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเบรกเกอร์ทำงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
- ความปลอดภัย:
- ตรวจสอบว่าเบรกเกอร์มีมาตรฐานความปลอดภัยและผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้
การบำรุงรักษาและตรวจสอบเบรกเกอร์
- ตรวจสอบสภาพของเบรกเกอร์เป็นประจำ: ควรตรวจสอบสภาพภายนอกของเบรกเกอร์ว่าไม่มีรอยแตกหรือความเสียหาย
- ทดสอบการทำงาน: ควรทดสอบการทำงานของเบรกเกอร์เป็นระยะๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเบรกเกอร์สามารถตัดกระแสไฟฟ้าได้เมื่อเกิดความผิดปกติ
- ทำความสะอาด: ควรทำความสะอาดเบรกเกอร์และพื้นที่รอบๆ เพื่อป้องกันฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่อาจทำให้เบรกเกอร์ทำงานผิดพลาด
การเลือกใช้และการบำรุงรักษาเบรกเกอร์อย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันอุบัติเหตุจากไฟฟ้าและการเสียหายของระบบไฟฟ้า