Fire Barrier System (ไฟรร์ แบริเออร์ ซิสเต็ม) คือ วัสดุชนิดหนึ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการป้องกันไฟ และป้องกันควันไฟไม่ให้มีการลุกลามเกิดขึ้น โดยการนำวัสดุชิ้นนี้มาอุดช่องเปิดที่เชื่อมต่อกันระหว่างห้อง หรือ พื้นระหว่างชั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟและควันลุกลามไปยังห้องอื่น ๆ ภายในอาคาร
อย่างที่เราทราบกันดีว่า Fire Barrier System เป็นวัสดุที่นิยมนำมาติดตั้งบริเวณที่เป็นช่องเปิดต่าง ๆ ภายในห้องหรืออาคาร โดยจะติดตั้งบริเวณช่องเปิดทุกช่องภายในอาคาร ไม่ว่าจะอยู่บนพื้น ผนัง คาน ช่องชาร์ปไฟฟ้า ช่องชาร์ปสื่อสาร ช่องลอด ที่เตรียมไว้สำหรับการติดตั้งระบบไฟฟ้า หรือ ระบบสื่อสาร และรวมไปถึงแนวผนังกันไฟ (Fire Walls) อีกด้วย
โดยชนิดของ Fire Barrier System ที่นิยมนำมาติดตั้งบนพื้นที่ที่มีช่องเปิดนั้น ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ชนิด Fire Stopping Mortar (ไฟรร์ สตอปปิ้ง มอร์ตาร์) ที่ความหนา 2 นิ้ว โดยมีฉนวนเส้นใยหิน (Rock Wool) ที่มีความหนาแน่น 150 กก./ลบ.ม. อยู่ที่ด้านล่างของวัสดุ เพื่อใช้ในการรองรับตัวของวัสดุในกรณีที่ได้รับความร้อนจากการเกิดเหตุเพลิงไหม้
Fire Barrier System นั้นมีหลักเกณฑ์ในการนำไปใช้งานที่หลากหลาย โดยเราสามารถแจกแจงออกมาได้ ดังนี้
- ต้องเป็นวัสดุที่ได้รับการรับรองการใช้งานจากสถาบัน UL หรือ FM ตามมาตรฐานดังต่อไปนี้ UL1479, ASTM และ E 814
- ต้องเป็นวัสดุที่ไม่เป็นพิษทั้งก่อนและภายหลังในการติดตั้ง
- ต้องเป็นวัสดุที่ป้องกันการลุกลามของไฟและควันไฟได้ อย่างน้อย 2 ชั่วโมง
- ต้องเป็นวัสดุที่ง่ายทั้งต่อการติดตั้งและรื้อถอน ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข วัสดุ หรือ อุปกรณ์ที่ร้อยผ่านช่องเปิดดังกล่าว
- ต้องเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง ไม่หลุดร่อน ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้
- ต้องเป็นวัสดุที่เกาะยึดได้ดีกับพื้นผิวที่เป็นคอนกรีต, โลหะ, ไม้, พลาสติก และฉนวนหุ้มสายไฟฟ้า
- ต้องเป็นวัสดุที่ทนต่อการสั่นสะเทือนได้ดี สามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อได้รับความร้อนสูง
- ต้องเป็นวัสดุที่ผ่านการทดสอบอายุการใช้งาน ไม่ต่ำกว่า 25 ปี
- ต้องเป็นวัสดุที่ได้รับการอนุมัติการติดตั้งจากผู้ว่าจ้าง หรือ ผู้แทนผู้ว่าจ้าง ก่อน