ทำไมเราต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันไฟย้อนกลับ?

ในงานเชื่อมหรือตัดโลหะด้วยก๊าซ เราจะต้องระวังการเกิดไฟย้อนกลับ (Flashback) เป็นปรากฏการณ์การไหลย้อนกลับของก๊าซจากหัวเชื่อม / ตัด ไหลกลับเข้าสู่สายจ่ายก๊าซจะทำให้เกิดการลุกไหม้แล้วทำให้เกิดการระเบิด ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง ดังนั้น เราจึงต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟย้อนกลับ (Flashback Arrestor) เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นนั่นเอง

สาเหตุการเกิดไฟย้อนกลับ

ประกอบหัวเชื่อมแก๊สไม่ถูกต้อง

ความดันใช้งานไม่ถูกต้อง

เลือกใช้หัว Tip ของหัวเชื่อม / ตัดไม่เหมาะสม
เกิดการรั่ว / อุดตันของก๊าซ ที่ชุดปรับแรงดัน สายจ่ายก๊าซ หรือข้อต่อ

อุปกรณ์ป้องกันไฟย้อนกลับ (Flashback Arrestor) หรือ ตัวกันไฟย้อนกลับ คือ อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยสำหรับงานเชื่อมและตัดโลหะด้วยก๊าซที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน งานเชื่อมและตัดด้วยก๊าซที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย อุปกรณ์นี้จะช่วยป้องกันการไหลย้อนกลับของก๊าซป้องกันความเสียหายจากการระเบิดได้เป็นอย่างดี

โดยปกติเราจะติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟย้อนกลับ ทั้งหมด 4 จุด ได้แก่

ด้านจ่ายของชุดปรับแรงดันก๊าซออกซิเจน (Oxygen Pressure Regulator)

ด้านจ่ายของชุดปรับแรงดันก๊าซเชื้อเพลิง (Fuel Gas Pressure Regulator)

ด้านหัวเชื่อม / ตัดก๊าซ (Torch) ที่ต่อกับสายจ่ายออกซิเจน

ด้านหัวเชื่อม / ตัดก๊าซ (Torch) ที่ต่อกับสายจ่ายก๊าซเชื้อเพลิง

ประเภทอุปกรณ์ป้องกันไฟย้อนกลับ (Flashback Arrestor)

ชนิดเปียก (Wet Type) – คือใช้น้ำในการดับไฟ แต่มีข้อจำกัดเรื่องทิศทาง ขนาดที่ใหญ่ และเรื่องระดับน้ำ จึงเหมาะกับการใช้แบบตั้งอยู่กับที่เป็นหลัก

ชนิดแห้ง (Dry Type) – เป็นตัวกันไฟย้อนกลับที่นิยมใช้ในปัจจุบัน มีคุณสมบัติหลักคือ หยุดยั้งเปลวไฟและการไหลย้อนกลับของก๊าซ สามารถใช้ได้ทุกทิศทาง และต้องการการดูแลรักษาน้อยมาก

การทำงานของตัวกันไฟย้อนกลับ ตามมาตรฐานต้องมีอย่างน้อย 2 คุณสมบัติ คือ

วาล์วกันย้อน (Non-return Valve: NV) ช่วยป้องกันการผสมกันของก๊าซ และช่วยควบคุมทิศทางการไหลให้ถูกต้อง

ชุดป้องกันเปลวไฟ (Flame Arrestor: FA) ช่วยลดอุณหภูมิเปลวไฟ และป้องกันไฟย้อนกลับ

แม้เราจะติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันแล้ว อย่าลืมใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน และหมั่นตรวจเช็คให้อุปกรณ์อยู่ในสภาพดีเสมอ โดยตรวจเช็คอย่างน้อยปีละครั้ง และเปลี่ยนตัวกันไฟย้อนกลับที่ผ่านการใช้งานแล้วทุก ๆ 5 ปี