แสงนีออน เป็นพลังงานแสงที่ทำให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนได้สว่างไสวขึ้น เมื่อพูดถึงแสงนีออนคนส่วนใหญ่จะสามารถนึกภาพได้ว่าคล้าย ๆ เคยเห็นอยู่แถวหน้าร้านอะไรสักอย่างในช่วงกลางคืน เรามาทำความรู้จักแสงนีออนให้มากขึ้นว่าแท้จริงแล้ว แสงนีออนนี้คืออะไร เจ้านีออนถูกตั้งชื่อมาจากก๊าซตระกูลที่ไม่มีกลิ่น และไม่มีสี ซึ่งไฟนีออนแบบดั้งเดิมประกอบไปด้วย ก๊าซนีออนจำนวนเล็กน้อย และมีแสงสีส้ม ๆ อมแดง ถ้าต้องการสีอื่น ๆ ผู้ผลิตจำเป็นต้องใช้สารเคมีและส่วนประกอบของก๊าซชนิดอื่นเข้ามาผสม และการเปิดตัวแสงนีออนครั้งแรกในงาน Paris Motor Show ปี 1910 โดย Georges Claude จึงทำให้แสงนีออนได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
แสงไฟนีออนถูกผลิตจากการเติมแก๊ซนีออนในหลอดแก้ว นีออนบริสุทธิ์จะปล่อยแสงสีแดงในระดับที่ปกติ แต่จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูหรือสีแดงซีดก็ต่อเมื่อไฟนีออนมีระดับก๊าซนีออนสูงกว่าปกติ หากผู้ผลิตต้องการสีที่หลากหลายมากกว่าเดิม คริปทอนจะถูกนำมาใช้งานสร้างแสงสีขาวเหลือง และซีนอน
ก็เช่นกันที่สามารถนำมาผสมให้เกิดแสงลาเวนเดอร์สีเข้มได้ และถ้าหากใครต้องการแสงสีแดงอมชมพูสามารถนำฮีเลียมพร้อมกับอาร์กอน และไอปรอทเทลงไปในหลอดเพื่อให้เกิดสีข้างต้นที่ต้องการได้
สิ่งสำคัญที่ทำให้แสงไฟนีออนเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะความสามารถในการทำให้สถานที่นั้น ๆ ดูโดดเด่น และสวยงามโดยให้แสงสว่างได้ถึง 360 องศา ต่างจากไฟทั่วไปที่มีเส้นทางแสงแบบมีทิศทางเฉพาะ แสงนีออนมีความสามารถที่ควรค่าแก่การใช้งานหลากหลาย เช่น สามารถใช้งานได้ยาวนานโดยเฉลี่ย 5 – 10 ปี และถ้าหากถูกบำรุงรักษาอย่างดีจะใช้งานได้ถึง 20 ปี ไม่เพียงแค่การใช้งานที่ยาวนาน แต่ยังช่วยประหยัดพลังงานเมื่อเทียบเท่ากับหลอดไฟทั่วไป เพราะไฟแบบดั้งเดิมมีแหล่งกำเนิดแสงจากการใช้ไฟฟ้า ในขณะที่ไฟนีออนใช้พลังงานจากไฟฟ้าเพื่อผลิตแสง จึงทำให้ช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 50%