การที่จะเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ (แอร์) สิ่งแรกที่จะนึกถึงคงเป็นเรื่องของการประหยัดไฟ คงต้องมองหาฉลากเบอร์ห้า และความคุ้มค่าใช่หรือไม่ เพราะแอร์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมาก แต่อีกเรื่องที่สำคัญไม่น้อย คือ ค่า SEER ซึ่งบนฉลากเบอร์ห้านั้นก็มีรายละเอียดต่าง ๆ ของแอร์เครื่องนั้นด้วย แอร์ที่จะประหยัดพลังงานได้มากคือ แอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยทั่วไปเราจะทราบค่าประสิทธิภาพจากฉลากเบอร์ห้าที่ติดอยู่กับเครื่อง ซึ่งปัจจุบันมีการแสดงค่าประสิทธิภาพบนฉลาก 2 แบบ คือ แบบ EER และแบบ SEER วันนี้จึงนำความรู้เกี่ยวกับ ค่า SEER มาฝาก เพื่อให้เข้าใจว่า ค่า SEER คืออะไร สำคัญอย่างไร
SEER (Seasonal Energy Efficiency Ratio) คือ ค่าที่ใช้วัดประสิทธิภาพในการใช้พลังงานตามฤดูกาลของแอร์ โดยจะนำค่าการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ ซึ่งมีผลต่อการทำงานของแอร์มาพิจารณาร่วมด้วย ทำให้มีความใกล้เคียงกับสภาพการใช้พลังงานจริงมากขึ้นกว่าการกำหนดแบบ EER ซึ่งแอร์ชนิด Inverter หรือ Variable Speed จะทดสอบแบบ SEER โดยจะมีระบบเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิ เมื่ออุณหภูมิถึงระดับที่กำหนดไว้ คอมเพรสเซอร์จะลดรอบลงเพื่อคงระดับความเย็นเอาไว้ แต่คอมเพรสเซอร์ไม่หยุดทำงาน อีกทั้งยังเป็นข้อดีที่ประหยัดไฟฟ้าไปได้ 30% เพื่อรักษาอุณหภูมิภายในห้องให้คงที่มากกว่าแอร์แบบเดิม
สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพแอร์ไม่สามารถเอาค่า SEER มาเปรียบเทียบกับ EER ได้ แต่ส่วนใหญ่แอร์ทั่วไป เมื่อคำนวณแบบ SEER จะได้ค่าสูงกว่าแบบ EER ประมาณ 5 – 6% ส่วนการคำนวณแบบ SEER ใช้ได้กับทั้งแอร์ทั่วไปและแบบอินเวอร์เตอร์ แต่แอร์แบบอินเวอร์เตอร์จะไม่คำนวณแบบ EER ถ้าจะเปรียบเทียบประสิทธิภาพต้องเปรียบเทียบที่ค่าแบบเดียวกัน โดยให้ดูว่าเครื่องไหนที่มีค่าสูงสุด เครื่องนั้นก็จะประหยัดไฟฟ้ามากกว่าและควรเลือกแอร์ที่มีขนาด (บีทียูต่อชั่วโมง) ให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง