การให้แสงสว่างจะแบ่งได้ 2 อย่างหลัก ก็คือ ส่องเพื่อความสว่าง และ ส่องเพื่อศิลปะ ซึ่งในแต่ละบ้าน ก็มีหลายห้องที่ต้องการแสงแตกต่างกันไป และขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้ใช้ห้องด้วย โดยนอกจากนี้ ยังมีเรื่องการมองเห็น และรูปแบบการตกแต่ง เข้ามาเป็นปัจจัยด้วยเช่นกัน จึงจำเป็นต้องจัดตำแหน่งหลอดไฟให้เหมาะสมมากที่สุด
-การจัดหลอดไฟในห้องนั่งเล่น จะมี2แบบ นั่นก็คือ จัดไฟเพื่อความสว่าง ยกตัวอย่างเช่น ไฟเพดาน หรืออาจจะเพิ่มด้วยโคมไฟ และ จัดไฟเพื่อเป็นการตกแต่ง ยกตัวอย่างเช่น ไฟที่ชั้นวางของ,ไฟตามตู้ หรือไฟชั้นลอยที่อยู่บนผนัง ซึ่งการจัดหลอดไฟในห้องนั่งเล่นนั้น ผู้ใช้ควรจะตั้งระบบแบบหรี่แสงได้ตามการใช้งานของตัวเอง
-การจัดหลอดไฟในห้องน้ำ ควรจะต้องจัดให้มีแสงสว่างที่ชัดเจน ถ้าเป็นตอนกลางวันควรทำช่องให้แสงธรรมชาติได้เข้ามาบ้าง ส่วนตอนกลางคืนก็ต้องติดหลอดไฟตรงทางเดินให้เห็นชัดด้วย หรือลองติดไฟไว้ที่กระจก จะติดหนึ่งหรือสองดวงก็ได้ ควรเลือกหลอดไฟที่ให้แสงแบบนุ่มนวล ไม่ควรเลือกที่ให้แสงแบบสะท้อน
-การจัดหลอดไฟในห้องนอน ต้องจัดให้ดูอบอุ่น สบาย ดูสงบ มากที่สุด เพราะว่าเป็นห้องที่ใช้พักผ่อน โดยจะติดบนฝ้าหรือฝาผนังก็ได้ แต่ไม่ควรว่างตำแหน่งไว้ตรงกับเตียง เพราะแสงที่จ้าเกินไป อาจจะทำให้รบกวนการนอน และอาจจะเพิ่มหลอดไฟตรงโต๊ะทำงาน หรือมุมทำงาน เพื่อให้ได้แสงสว่างที่เหมาะสม
-การจัดหลอดไฟในห้องครัว เป็นอีกห้องที่ต้องการแสงสว่างมากเช่นกัน ทั้งตอนกลางวันที่ใช้แสงไฟจากธรรมชาติ และตอนกลางคืนที่ใช้แสงจากหลอดไฟ โดยเริ่มที่การใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ทั่วไป เพื่อให้ความสว่าง รวมถึงการตกแต่งไฟแบบเฉพาะที่ เช่น ตรงเคาเตอร์ครัว,เหนือโต๊ะอาหาร ซึ่งจะทำให้อาหาร
มีความน่ารับประทานมากขึ้น
-การจัดไฟตรงทางเดิน เริ่มตั้งแต่ทางเดินเข้าบ้าน และทางเดินในบ้าน ควรจะต้องจัดหลอดไฟให้มีความสว่างมากพอ หรือจะติดหลอดไฟที่ใช้ไว้ประดับตกแต่ง จะเป็นการเพิ่มความสวยงามไปในตัว ถ้าติดไว้ที่ประตูรั้ว แนะนำให้ติดไฟ2 ดวงไว้ด้านบน,หน้าประตูบ้านติดหลอดไฟอย่างน้อย 1 ดวง