แนะนำวิธีการเลือกหลอดไฟLED ติดในบ้าน เพื่อให้บ้านน่าอยู่และให้ความสะดวกสบายมากขึ้น
-เลือกหลอดไฟLED จากโทนสีของแสง โดยแสงที่ออกจากหลอดไฟในแต่ละดวงของแต่ละบ้าน จะไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราจึงควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน อย่างเช่น หลอดไฟ Warm White จะให้แสงโทนส้ม อบอุ่น เหมาะกับติดในห้องรับแขกและห้องน้ำ,หลอดไฟCool White จะให้แสงโทนสีขาว โทนเย็น มองแล้วมีความสบายตา เหมาะกับติดที่ร้านค้า,หลอดไฟDaylight White เป็นหลอดไฟให้สีมาตรฐาน เหมือนแสงธรรมชาติมากที่สุด สามารถติดได้ทุกที่ตามต้องการ
-เลือกขั้วหลอดไฟ ต้องเลือกตามประเภทของหลอดไฟ อย่างเช่น หลอดไส้ จะปล่อยพลังงานทางขดลวดจนร้อนและเปล่งแสงออกมา หรือเรียกกันว่า หลอดทังสเตน ฮาโลเจน เน้นความสว่างแบบพิเศษ,หลอดคอมแพคฟลูออเรนเซนต์ หรือ หลอดตะเกียบ จะส่งผ่านประจุอิเล็คตรอนขั้วลบ ไปขั้วบวก จนทำให้เกิดแสง ใช้งานได้นาน ให้แสงสว่างดี แถมยังประหยัดไฟด้วย ,หลอด LED ที่จิ๋วแต่แจ๋ว ให้แสงสว่างมาก แต่ไม่กินไฟ เปิด-ปิด ได้ตามต้องการ
-เลือกความสว่างให้เหมาะกับพื้นที่ ถ้าเกิดเราจะใช้แสงไฟอ่านหนังสือก็ควรเลือกหลอดไฟที่ให้แสงสว่างเพียงพอ แต่ถ้าเป็นห้องนอนก็ไม่ควรที่จะเลือกแสงไฟที่แข็งกระด้างหรือจ้าจนเกินไป
-เลือกรูปทรงของหลอดไฟให้เหมาะกับการใช้งาน และถือว่าเป็นการตกแต่งห้องไปในตัว ซึ่งนอกจากนี้ถ้าเกิดเลือกรูปทรงของหลอดไฟไม่ดี อาจจะทำให้แสงสว่างที่ออกมาไม่เพียงพอ และกระจายแสงได้น้อย
-เลือกหลอดไฟที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ต้องการ ยกตัวอย่างเช่น ปรับระดับความสว่าง,ปรับโทนสีของแสง ซึ่งจะทำให้คุ้มมากๆ เพราะ1ห้องจะกลายเป็นทั้งที่ทำงานและที่พักผ่อนไปในตัว
-เลือกตามจำนวนวัตต์ สิ่งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่ของบ้าน ถ้าห้องสูง2.5เมตร ก็ควรติดหลอดไฟLED อยู่ที่4-5วัตต์ ทั้งหมด 10 หลอด แต่ถ้ามากกว่านั้น ก็เพิ่มตามความเหมาะสมได้เลย