ถ้าพูดถึงแคลมป์มิเตอร์ เราคงเห็นว่าเมื่อช่างไฟมาซ่อมไฟ เขาจะใช้อุปกรณ์อยู่หนึ่งอย่างที่ใช้วัดโน้นนี่โดยส่วนใหญ่อุปกรณ์ชิ้นนั้นคือ “แคลมป์มิเตอร์“ นั่นเอง
แล้วแคลมป์มิเตอร์มันทำอะไรได้บ้างล่ะ
แคลมป์มิเตอร์เป็นเครื่องมือวัดทางไฟฟ้าชนิดหนึ่ง โดยเป็นอุปกรณ์ขั้นพื้นฐานที่ช่างไฟฟ้าควรจะใช้เป็นเพราะ แคลมป์มิเตอร์ สามารถวัดค่าพื้นฐานทางไฟฟ้าได้ครบ ไม่ว่าจะเป็นการวัดค่ากระแสไฟฟ้า วัดค่าแรงดันไฟฟ้าหรือจะเป็นวัดค่าความต้านทาน ซึ่งแคลมป์มิเตอร์ก็มีหน้าที่ในการใช้งาน คล้ายกับมัลติมิเตอร์เพียงแต่แคลมป์มิเตอร์จะใช้ง่ายกว่า ในส่วนของคุณสมบัติต่างๆนอกเหนือจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของอุปกรณ์โดยแคลมป์มิเตอร์ก็ใช้ในการการวัดไฟฟ้ารั่วและสามารถเช็คไฟฟ้าลัดวงจรได้
มาดูวิธีใช้แคลมป์มิเตอร์กัน
การใช้แคลมป์มิเตอร์มีวิธีการที่แตกต่างกันออกไปตามวัตถุประสงในการวัด หากเราต้องการวัดค่ากระที่ไหลผ่านสายไฟเส้นใดก็สามารถนำแคลมป์มิเตอร์ไปคล้องที่สายไฟที่ต้องการจะวัดแค่นี้ก็อ่านค่ากระแสได้เลยต่างจากมัลติมิเตอร์ที่ต้องทำการนำอุปกรณ์วัดมาต่ออนุกรมเพื่อจะวัดกระแส หากต้องการวัดแรงดันไฟฟ้า ก็สามารถใช้สายวัดสองเส้นของแคลมป์มิเตอร์ไปจิ้มยังจุดที่ต้องการจะวัดแรงดัน การวัดค่าความต้านก็เช่นกันสามารถใช้สายวัดแตะที่จุดที่ต้องการวัดความต้านทานได้เลย เพียงแต่ข้อสำคัญในการวัดทุกๆครั้งคุณต้องหมุน
ปรับย่านให้ถูกต้องตามโหมดที่คุณต้องการจะวัด ในบางรุ่นสามารถวัดแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงได้ ก็ต้องวัดให้ถูกขั้วหากสลับขั้วค่าแรงดันจะออกมาติดลบในส่วนของการวัดเพื่อตรวจไฟฟ้าลัดวงจร ก็ทำได้โดยการวัดความต่อเนื่อง โดยหากนำสายวัดมาแตะที่ตัวน าที่มันต่อเนื่องถึงกัน จะมีเสียงสัญญาณจากตัวแคลมป์มิเตอร์นั่นแสดงว่ามีการลัดวงจรอยู่ ในส่วนของการวัดไฟรั่วก็สามารถวัดโดยการนำแคลมป์มิเตอร์มาคล้องสาย L กับ N โดยปรับย่านไปที่การวัดกระแสไฟฟ้าเพียงแต่การวัดไฟรั่วอุปกรณ์ต้องมีความละเอียดพอที่จะวัดไฟรั่วได้ในหน่วย mA
