ถ้าเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับขึ้นมาในตอนกลางคืน ก็คงจะมืดมิด และน่ากลัวน่าดู แต่ถ้าไฟฟ้าที่บ้านของคุณดับขึ้นมาละ คุณจะทำอย่างไร..? วันนี้จะมาบอกขั้นตอนเบื้องต้นว่าควรทำอย่างไรถ้าเกิดว่าไฟฟ้าที่บ้านดับ
อันดับแรกเลยคือ เราต้องเช็คดูว่าไฟฟ้าที่บ้านเรา ดับบริเวณไหน ดับแค่บ้านเราหลังเดียวไหม หรือบ้านข้างๆ ก็ดับด้วย !!แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยกันด้วยนะ อย่าประมาท!! ถ้าเช็คดูแล้ว เราจะได้รู้ว่าถ้าบ้านเราดับหลังเดียวก็อาจจะเป็นเพราะอุปกรณ์ตัดไฟรั่วที่บ้านของเราอาจทำงาน แต่ถ้าบริเวณบ้านรอบๆ ดับทั้งหมด ก็คงคิดได้ว่าอาจเป็นเพราะแหล่งกำเนิดไฟฟ้าหลักมีปัญหา
ต่อมาเราควรที่ตรวจเช็คสมาชิกภายในบ้าน ว่าทุกคนปลอดภัยดีไหม มีใครเป็นอะไรหรือป่าว เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุด คือสมาชิกคนในครอบครัวของแต่ละบ้าน
และต่อมาเราควรที่จะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่หรือช่างไฟฟ้า ให้เข้ามาตรวจเช็คและแก้ไขในจุดที่เกิดปัญหา เพราะถึงอย่างไรเราก็ไม่ควรที่จะทำการแก้ไขเรื่องระบบไฟฟ้าเอง อาจเกิดอันตรายแก่ตัวเราได้ เพราะฉะนั้น ต้องให้ช่างที่มีความชำนาญมาแก้ไขจะดีที่สุด
ระหว่างที่เรารอเจ้าหน้าที่มาแก้ไขระบบไฟฟ้านั้น เราต้องปิดสวิตซ์และดึงปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านทุกชนิด !!แต่ต้องระวังเป็นอย่างมาก!! เพราะถ้าไฟฟ้าติดขึ้นมาแบบกะทันหัน อาจเกิดอาการไฟฟ้ากระชากได้
และเราควรที่จะเปิดหน้าต่างไว้ เพื่อที่จะระบายอากาศ ให้อากาศถ่ายเท เพราะเราไม่รู้ว่าไฟฟ้าจะติดเมื่อไร ไม่อย่างนั้นเราอาจจะรู้สึกร้อน รู้สึกอึดอัด หรือหายใจไม่สะดวกก็ได้
เราควรใช้ตู้เย็นให้น้อยที่สุด เพราะในตู้เย็นส่วนใหญ่นั้นจะเป็นของที่จำเป็นต้องแช่เย็นไว้เกือบทุกอย่าง อาจจะมีแค่บางอย่าง เช่น เครื่องดื่มต่างๆ ที่ไม่ต้องแช่เย็นก็สามารถรับประทานได้ แต่อาจจะไม่สดชื่นเท่าไรนัก แต่ถ้าเป็นของที่จำเป็นต้องแช่เย็นไว้ เช่น เนื้อสด ก็อาจทำให้เนื้อเน่าเสียได้
ในกรณีที่ไฟฟ้าเกิดดับขึ้นมาในตอนกลางคืน สิ่งที่ต้องทำเพื่อให้เกิดแสงสว่างก็คือ ใช้ไฟฉาย ใช้แสงแฟลซจากโทรศัพท์มือถือ หรือจุดเทียนไว้บริเวณต่างๆ เป็นต้น แต่ถ้าหากเราจุดเทียนแล้วละก็ ควรต้องวางไว้บริเวณที่ปลอดภัย ไกลจากวัตถุไวไฟ และเราไม่ควรที่จะเดินไปเดินมาบ่อยๆ เพราะอาจไปสะดุดกับสิ่งของภายในบ้านเข้า และอาจทำให้เราบาดเจ็บได้
ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับขึ้นมา ทางที่ดีคือเราต้องมีสติไว้ และควรติดต่อแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้มาช่วยแก้ไขโดยเร็วที่สุด #by changfidotcom